‘ความรักความไว้วางใจ’ คือหัวใจสำคัญของการมีชีวิตอย่างตื่นรู้ เมื่อใดที่เราได้รับความรักความไว้วางใจจากใคร เราจะรู้สึกหัวใจพองโตมีเรี่ยวมีแรง รู้สึกว่าตนมีคุณค่าและอยากทำสิ่งดีๆ ความรู้สึกไม่มั่นคงในใจที่เคยมีก็สลายหายไป เหลือไว้แต่หัวใจเปี่ยมรักที่มีปัญญาพร้อมจะแก้ปัญหาด้วยวิธีสร้างสรรค์
เราอาจเคยรู้สึกไม่มั่นคงในใจเพราะไม่รู้จะรับมือกับปัญหารุมเร้าในชีวิตอย่างไร ไหนจะปัญหาทางกายที่ต้องทำมาหากินเลี้ยงชีพท่ามกลางข้าวของที่ขึ้นราคาทุกวัน ซ้ำยังต้องคอยระวังภัยจากมลพิษรอบตัว ทั้งฝุ่นควันเอย ทั้งสารปนเปื้อนเอย เพราะถ้าเจ็บป่วยขึ้นมาก็เสียเวลาทำมาหากินไปอีก
ส่วนปัญหาทางใจก็ไม่พ้นเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวหรือที่ทำงาน ความสัมพันธ์ระหว่างคนรักหรือเพื่อนฝูง ซึ่งมักจะไม่สนิทใจกันมากพอ จนเกิดความระแวงสงสัยกัน เกิดความน้อยอกน้อยใจกัน จากที่เคยเป็นขวัญกำลังใจ ก็กลายเป็นอึดอัดใจแทบไม่อยากมองหน้า
หลายครั้งที่เราฝันถึงอัศวินขี่ม้าขาวหรือซุปเปอร์ฮีโร่ที่จะมาช่วยขจัดปัดเป่าปัญหาให้หมดสิ้นไปจากชีวิตเรา หรือใครสักคนที่เป็นเหมือนยอดมนุษย์ที่มีพลังวิเศษ สามารถแก้ปัญหายุ่งเหยิงในชีวิตเราได้อย่างคล่องแคล่ว แถมยังยิ้มได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บางทีเราอาจเคยได้พบคนคนนั้นในชีวิตจริงแล้วก็เป็นได้
ใครจะรู้ว่าอัศวินขี่ม้าขาวหรือซุปเปอร์ฮีโร่ที่ว่านั้นอาจอยู่ใกล้ตัวเรานี่เอง เพียงเราเปิดใจและให้ ‘ความรักความไว้วางใจ’ ภายในตัวเราได้เผยออกมา และเราสามารถทดลองทำสิ่งนี้กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันได้

สมมติว่าเรากำลังอยู่ในร้านสะดวกซื้อที่คลาคล่ำไปด้วยลูกค้าที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว และเรากำลังเร่งรีบเพื่อไปทำธุระสำคัญ แต่พนักงานกลับทำท่างุนงงกับการคิดราคาสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือ และปล่อยให้เรารออย่างไม่รู้จุดหมาย แล้วอยู่ดีๆ ก็บอกเราว่าต้องจ่ายเงินทั้งที่เรากำลังขอให้เขาสแกนคูปองเพื่อชำระค่าสินค้านั้นอยู่ เราอาจตกใจหรือถึงขั้นโมโหที่ทำให้เราเสียเวลา ซ้ำร้ายยังต้องมาเสียเงินเพิ่มอีก เพราะเราคิดว่าพนักงานควรได้รับการอบรมก่อนให้บริการรับชำระค่าสินค้า
มาถึงตรงนี้เราสามารถทดลองเปิดโอกาสให้ “ความรักความไว้วางใจ” ภายในตัวเราได้เผยตัวออกมา หากเราลองมองลึกลงไปในตัวพนักงานคนนั้น เราอาจเห็นความกังวลใจ ความร้อนรน ที่เกิดจากความพยายามในการรับชำระค่าสินค้าให้เรา หลายครั้งในชีวิตที่เราก็มีสภาพไม่ต่างจากพนักงานคนนี้ เรารู้สึกได้ถึงความทุกข์ของเขา ทันใดนั้นความรักในตัวเราก็ผุดขึ้นมา เราจึงใจเย็นลงและรอเขาอย่างไว้วางใจว่าความพยามยามของเขาจะไม่สูญเปล่า
เมื่อเราใจเย็นลงเราจึงให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คูปองนั้น เผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง จากนั้นไม่นานเขาก็พบวิธีสแกนคูปองเพื่อชำระค่าสินค้านั้น และโพล่งออกมาด้วยความดีใจและมองหน้าเราว่า “เราจะไปด้วยกัน!” วินาทีนั้นเรารู้แล้วว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว และเราก็ยิ้มกลับไปพร้อมกับตอบรับในใจว่า “ได้สิ!” รออีกนิดทุกอย่างก็เรียบร้อย แล้วเราก็เดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อพร้อมรอยยิ้ม
แม้ฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่บางทีนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการตื่นรู้สู่สิ่งที่สำคัญยิ่งๆ ขึ้นไปก็เป็นได้
Photo by Austin Neill on Unsplash
