รวม 50 ประสบการณ์จริง 50 เส้นทางสู่การตื่นรู้
ONE
หนึ่งเดียวกัน
มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพ
ที่จะเข้าถึงสภาวะการตื่นรู้
และการเปลี่ยนแปลง
ตัวตนโดยสิ้นเชิง จากทุกข์เป็นสุข
จากมืดเป็นสว่าง จากคับแคบ
เป็นเปิดกว้าง จากทำลาย
เป็นสร้างสรรค์ อันเป็นไป
เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล
ทั้งในระหว่างคนกับคน
และคนกับสรรพสิ่ง
เมื่อสมดุลก็เกิดสงบ สันติ
สุข จึงกล่าวว่า ในที่สุด
มนุษยชาติทั้งหมด
จะพบประตูสู่การตื่นรู้
ศ.นพ.ประเวศ วะสี
"เราคือเพื่อนร่วมทาง สู่หนึ่งเดียวกัน"
รวบรวม 50 ผู้ร่วมแบ่งปัน
50 ประสบการณ์
บนเส้นทางตื่นรู้
ขอเชิญสัมผัส 50 ผู้ร่วมแบ่งปัน ประสบการณ์ตื่นรู้จากกัลยาณมิตรหญิงชาย 50 ท่าน ได้ให้เกียรติเปิดใจถ่ายทอดประสบการณ์สำคัญในชีวิต ได้กรุณาแบ่งปันเรื่องราวเหตุการณ์ในชีวิตทั้งทุกข์และสุข เปิดเผยเส้นทางแห่งการเติบโตและเปลี่ยนแปลงท่ามกลางวิกฤต จนถึงจุดพลิกผันเปลี่ยนแปลง หลุดจากกรงขังของความคิด ความเชื่อ เกิดจิตสำนึกใหม่ เกิดมุมมองใหม่ กระทั่งเป็นอิสระจากตัวตนที่เคยหลงยึดมั่น รวมเป็นนิยามแห่งการเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่เรียกว่า การตื่นรู้*

รวม 50 ประสบการณ์จริง
50 เส้นทางสู่การตื่นรู้

อิสรภาพที่เกิดจากความจริงแท้ คืออิสรภาพที่แท้จริง
“ การตื่นไม่ใช่การควบคุมความคิด ไม่ใช่การเลือกเฉพาะอารมณ์ หรือความคิดที่เราพอใจ และพยายามหยุดหรือห้ามปรามความคิดและอารมณ์ที่เราไม่ปรารถนา นั่นไม่ใช่การตื่น แต่เป็นสิ่งตรงกันข้าม คือการหวนกลับสู่ความหลับใหล ”

ออกจากลมหายใจแห่งความเจ็บปวด
คนเราต้องตื่นเพราะก่อนหน้านั้นชีวิตเราก็เหมือนอาศัยอยู่ในเปลือกไข่ แต่พอถึงเวลาก็จะมีเหตุบางอย่างมากระทบให้เราเห็นความจริงของจิตและกายนี้ เหมือนถึงเวลาต้องออกจากเปลือกไข่

ความสุขหาง่ายในความจริงแสนธรรมดา
นักเขียนการ์ตูนหมื่นตาธรรมะ ผู้แบ่งปันความรู้และแรงบันดาลใจธรรมะมากกว่า 10 ปี

จากการเรียนรู้สู่การสำรวจโลกภายใน
วางใจตัวเองและโลกได้มากขึ้น มีศรัทธาต่อศักยภาพในการดำรงอยู่และจัดสมดุลของชีวิต

ตื่นรู้ตัว
ธาตรี โภควนิช ผู้ก่อตั้งบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ ‘สร้างสรรค์เทคโนโลยีเพื่อชุมชน’ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และจิตอาสากระบวนกรศิลปะ (Art Facilitator) อธิบายต่อว่า การเดินไปสู่คำถามนั้นเริ่มต้นง่ายๆ ด้วย 5 สเต็ปต่อไปนี้คือ การรู้ว่าตัวเรานั้นเป็นใคร มาจากไหน มาทำอะไร ต้องไปไหน และสุดท้ายจะไปได้อย่างไร และเมื่อเราทุกคนหาคำตอบเหล่านั้นได้ครบ ปัญหาต่างๆ บนโลกใบนี้จะหมดไปทันที โดยเฉพาะปัญหาการแสวงหา ‘ความสุข’ เพราะทุกคนเข้าใจแล้วว่า ความสุขที่แท้จริงนั้นคืออะไร

ความหมายใหม่ของความสุขและความสำเร็จ
โค้ช วิทยากร และ ที่ปรึกษาด้าน Soft Skills ให้กับองค์กรต่างๆ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ที่ผสมผสานระหว่างศาสตร์ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กับศิลปะการพัฒนาชีวิตแบบจิตตปัญญาศึกษา

หยุดกับดักความคิด
ความทุกข์ของเขาคือ ‘ความคิดที่ติดกับ’ และ ‘การจมอยู่ในโลกของตัวเอง’
และเชื้อเพลิงของความทุกข์ดังกล่าวก็มาจากตัวเอง สภาพแวดล้อม และสังคมที่อาศัยอยู่ ถึงขั้นที่เขาออกปากว่า ‘เหนื่อยล้า’ และ ‘สงสาร’ ตัวเอง ที่หยุดและวางความคิด ต้นเหตุความทุกข์ดังกล่าวไม่ได้

เส้นทางสู่ชีวิตสุดท้าย
จากที่ทั้งชีวิตที่มีนิสัยด้านลบจนทำให้มีปัญหาความสัมพันธ์ พร้อมๆ กับปัญหาด้านการเงินและสุขภาพ จนเกิดสภาวะเบื่อหน่าย ท้อแท้ สิ้นหวัง เริ่มตำหนิตัวเอง ซึมเศร้า และมีภาวะอยากฆ่าตัวตาย จนมาสู่จุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอมองเห็นภาพใหญ่ของชีวิต เห็นเหตุแห่งความทุกข์ ผ่านการวิเคราะห์ใคร่ครวญและทำความเข้าใจจากภายใน จนสามารถหลุดจากทุกข์เดิมๆ ได้

รู้สึกตัวเพื่อความปกติ
นักกายภาพบำบัดที่เฝ้าสังเกตคนไข้แล้วพบว่า ความเจ็บป่วยของคนจำนวนมากเกิดจาก ความเครียด ความกลัว ความวิตกกังวล ในโลกปัจจุบันที่ทุกอย่างหมุนไปอย่างรวดเร็วทำให้เราตกอยู่ในหลุมของ ‘ความคิด’ จนเกิดความทุกข์และความเจ็บป่วยตามมา

เมื่อกรรมทำงาน
พรจิตต์ พงศ์วราภา รองประธานฝ่ายการเงิน บริษัทจีเอ็มมัลติมีเดียกรุ๊ปจำกัด(มหาชน) หรือที่หลายคนรู้จักในนามปากกาขวัญ เพียงหทัย นักเขียนผู้มีงานเขียนต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2544 เช่น ธรรมะรอบกองไฟ ช้อปปิ้งบุญ ธรรมะเอกเขนก และหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิต สวนดอกไม้กับชีวิต ดั่งสายน้ำไหล ทุกสิ่งดีเสมอ และสันติสุขในดวงใจ

การตื่นรู้เป็นปาฏิหาริย์ของชีวิต
ประสบการณ์นับสิบปีในฐานะนักทำงานสังคมที่สนใจพลังในการแปรเปลี่ยนทั้งในระดับชีวิต องค์กร ชุมชน และขบวนการทางสังคมที่ไปสู่ความสุขและพลังความร่วมมือกัน พรชัย บริบูรณ์ตระกูล เป็นกระบวนกร เป็นนักวิจัยจัดการความรู้ นักติดตามประเมินผลแบบเสริมพลัง นอกจากนี้ เขาได้เปิดพื้นที่บ้านตนเองเป็นที่ฝึกฝนและแบ่งปันในชื่อ “บ้านพรชีวิต” ซึ่งมีคอร์สอบรมต่างๆ รวมถึงร่วมมือกับกลุ่มเพื่อนและครูที่เคารพรัก จัดชุด “พรชีวิต เดอะซีรีส์”

ชีวิตจะผลักให้คุณตื่น
เราไม่คิดว่า ‘ต้อง’ ตื่นรู้ แต่นึกไม่ออกว่าใครจะหลับใหลไปตลอดชีวิตได้ คุณไม่ตื่น ชีวิตมันจะผลักให้คุณตื่นเอง

โยคะตื่นรู้
ว่ากันว่า การตื่นเพื่อรู้ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ รวมทั้งไม่ได้จำกัดที่ช่วงอายุหรือวัยแต่อย่างใด ก่อนจะเป็นครูสอนโยคะสมาธิ และหนึ่งในผู้ริเริ่มกลุ่มจิตอาสาแปล TED Talks บนเฟซบุ๊ก แบงค์-โพธิรักษ์ แสงสว่าง เคยเลือกหนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย แล้วจังหวะนั้นเอง คือจุดเปลี่ยนที่ทำใช่ชีวิตของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

สร้างสรรค์อย่างเป็นธรรมชาติ
ศิลปินอิสระสร้างสรรค์งานศาสนศิลป์ร่วมสมัย, อาจารย์พิเศษคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ และคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, ผู้แปล เพลงรักทะไลลามะ และเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก Zen Smile Zen Wisdom วาดการ์ตูนเซนด้วยลายเส้นเรียบง่ายแต่มีเนื้อหากระตุกเตือนและชวนให้ตั้งคำถาม

นักช้อปปิ้งธรรมะผู้ตามหาสวนโมกข์ฯ
“ทุกวันนี้ผมยังคงเฝ้ามองโลกภายในตัวเอง ขึ้นๆลงๆ เหมือนคลื่นในทะเล บางวันก็ดูดีเสียเหลือเกิน บางวันต้องกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ แต่แปลก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะตำหนิและโทษตัวเองอย่างมากที่ไม่ก้าวหน้า เหมือนเรียนตกซ้ำชั้น แต่คราวนี้ผมยอมรับได้ มันก็เป็นอย่างนี้แหละ เท่าไหร่ก็เท่านั้น ผมอยู่กับมันได้ ยอมรับมันได้ ผมศิโรราบให้กับธรรมชาติที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว”

ลูก แม่ ฉัน และการเดินทางสู่อิสรภาพของใจ
ชีวิตที่เกิดการตื่นเพื่อรู้ คือชีวิตที่มองเห็นความเป็นจริงของโลกด้วยใจที่เปิดกว้าง เข้าใจถึงความคิด ความเชื่อ ที่เป็นที่มาของความทุกข์ในชีวิต และรู้จักที่จะอยู่กับชีวิตด้วยความไม่คาดคั้น สามารถละวางความคาดหวังทั้งกับตัวเองและคนอื่นลงได้

ความสมบูรณ์ของการปรับใจ
การตื่นรู้คือภาวะที่กลับไปจำได้อีกครั้งว่าแท้จริงแล้วเราเป็นใคร กลับไปสู่รากหรือแก่นแท้ของการเกิดมา เพื่อให้ชีวิตที่ต้องดำเนินอยู่เต็มไปด้วยความงาม ความรัก ความสมบูรณ์ทางใจ

ตื่นสู่ความเป็นมนุษย์
“ท้ายที่สุดฉันเริ่มค้นพบว่า ไม่มีหรอกคำว่าตื่นรู้ ฉันไม่ได้ตื่นรู้อะไรเลย ฉันเป็นเพียงคนเดินทางที่เฝ้าจุดตะเกียงในความมืดครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ใช่เพื่อส่องแสงไปยังความมืดที่อยู่ตรงหน้า แต่เพื่อส่องให้เห็นความมืดในตัวเอง และเพื่อให้ความมืดในตัวฉันหายไป”

ชีวิตนี้ต้องไม่เป็นโมฆะ
“ผมเป็นนักเรียน นักเขียน นักแปล และเป็นกระบวนกร หน้าที่หลักคือการเปลี่ยนแปลงตนเองและสังคม ให้ก้าวไปสู่ความบริสุทธิ์ยุติธรรมและยั่งยืน ผมทำงานนี้มาตลอดชีวิตตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย และตั้งใจที่จะตายคางานนี้”

มองเห็นและเป็นอิสระ
เส้นทางสายธรรมะของวีระพลไม่หวือหวา ไม่สุดโต่ง เพียงแต่ปรับและรับวิธีคิด ใช้ชีวิต และตรวจสอบโลกภายในของตัวเองมาไว้ในชีวิตประจำวัน

โลกสมมุติที่พาเราติดกรอบ
“เมื่อพบว่าการทำตามกระแสความเชื่อ หรือความนิยมในสังคมที่จะนำมาซึ่งความสุขในชีวิต แต่ไม่ทำให้เกิดความสุขที่แท้จริงได้ และแม้จะใช้ความพยายามจนถึงที่สุดแล้ว ก็ไม่สามารถทำได้ จึงปล่อยทุกอย่างยอมรับสภาพอย่างที่เป็น เมื่อนั้นจึงพบความจริงของการตื่นรู้”

ดีร้ายไม่มีคำว่าบังเอิญ
‘การรักษาที่เข้าใจชีวิตและอิสรภาพของการมีชีวิต ทั้งในยามเจ็บป่วยและก่อนความตาย’ คือสิ่งที่ นพ. ทีปทัศน์ ชุณหสวัสดิกุล หาคำตอบมาตลอด โดยเฉพาะ 10 ปีหลังของการเป็นแพทย์

เห็นความเป็นมนุษย์ แจ่มแจ้งในธรรมชาติของชีวิต
ตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอๆ ว่าการฝึกปฏิบัติของเรานั้นเป็นไปเพื่อความปกติหรือความพิเศษ การฝึกฝนของเราช่วยลดละหรือพอกพูนกิเลส ช่วยลดละหรือพอกพูนอัตตาตัวตน

คุยกับทุกข์
ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ประสบการณ์ ความคาดหวัง ความอัศจรรย์ที่เจอ ‘เททิ้ง’ ไปให้หมดและเริ่มต้นใหม่เหมือนคนที่ไม่เคยปฏิบัติมาก่อน ‘เททิ้ง เริ่มใหม่ เรียนรู้’

ทดลองสร้างของขวัญแห่งปัจจุบัน
วิทยากรกระบวนการ องค์กรของขวัญแห่งปัจจุบันขณะ (7 presents) จากคำถามที่ว่า “ทำไมคนจึงสนใจภาวะของการ ‘ตื่นรู้’ ” และ “ประสบการณ์อะไรที่ทำให้เกิดการตื่นรู้”

การตื่นรู้ก็เหมือนกับการปอกเปลือก
หยดพิรุฬ ไทยเกิด คลุกคลีงานด้านโทรคมนาคมมานาน 10 ปี ในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม แต่วันหนึ่งเธอทิ้งทุกอย่างที่เคยหล่อหลอมเป็นตัวเธอ แล้วค่อยๆก่อร่างสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่ในแบบของเธอเอง ด้วยสองมือที่เธอใช้ปลูก จับเสียม จอบ เพื่อรดน้ำพรวนดิน ไม่ใช่มันสมองที่เคยใช้คิดคำนวณ เธอหันหลังให้กับโลกใบที่เธอเคยใช้ชีวิตเหมือนหยิบยืมมาจากคนอื่น ทำทุกสิ่งไปตามแรงขับที่ตรงข้ามกับความต้องการของตัวเอง แล้วเปลี่ยนมาใช้ชีวิตในโลกอีกใบที่การใช้ชีวิตแต่ละวัน คือการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ พร้อมๆกับการสดับฟังเสียงหัวใจตัวเอง

ผ่าตัดตัวตนจากการตื่นรู้
“ความเชื่อถึง ‘ความจริงแท้ถาวร’ นี่แหละ ที่กลายเป็นสาเหตุของความทุกข์ คนเราจึงเป็นทุกข์ การตื่นรู้เป็นการวางความเชื่อ วางความคิดลงได้ สามารถเดินออกจากความคิดไปอยู่ในความตื่นการเปลี่ยนแปลงภายในบุคคลนี้ ทำให้หมดทุกข์”

พบ ‘Mind’ แมป
กระบวนกรด้านการพัฒนาศักยภาพ วัย 39 ปี ผู้ใช้ศาสตร์การสร้าง Mind Mapping หรือแผนผังความคิดเข้ามาช่วยจัดระเบียบความคิดโดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาศักยภาพของผู้คน และสร้างสมดุลด้วยปัญญา 3 ฐาน คือ ฐานคิด ฐานใจ ฐานกาย

สู่พรแห่งชีวิต
ยุพิน ประเสริฐพรศรี หรือเมย์ นักวิจัยอิสระทางด้านสังคมศาสตร์ งานวิจัยด้านชุมชน งานด้านการติดตามประเมินผลโครงการฯ เธอเป็นกระบวนกรเพื่อพาคนฝึกฝนด้านการเติมเต็มพลังชีวิต การตื่นรู้และการเยียวยา เมย์สนใจมิติของกระบวนการเรียนรู้เพื่อรู้จักตัวเอง การประสานพลังกลุ่ม การเรียนรู้พลังธรรมชาติ รักในการเรียนรู้เรื่องการฝึกฝนตัวเองบนวิถีแห่งการภาวนา การเจริญสติ และศาสตร์การภาวนาแบบเรกิ

เป็นแม่จึงค้นพบ
ดิฉันพบว่าโจทย์ที่ท้าทายที่สุดในประสบการณ์ชีวิตของแม่ คือการจัดการกับภาวะจิตใจของตนเอง เมื่อจิตใจขุ่นมัว ก็มองไม่เห็นทฤษฎี มองไม่เห็นลูก มองไม่เห็นแม้แต่ตนเอง แม้ว่าจะสะสมความรู้ภายนอกมากมาย แต่ก็ไม่สามารถนำความรู้จากใดๆ ไปปฏิบัติกับชีวิตลูกได้เลย หากไม่รู้จักและเข้าใจชีวิตความเป็นแม่ในแบบเฉพาะของตนเอง

ตื่นได้ในทุกขณะ
การตื่นรู้เป็นหนทางที่เราจะได้พบกับความสุขอย่างแท้จริง การตื่นรู้จึงเป็นเรื่องของทุกคน แม้แต่ผู้ที่ไม่สนใจเรื่องราวของการตื่นรู้ก็ยังเป็นเรื่องของพวกเขาด้วย ร่างกายของเราต้องการอากาศ ไม่ต่างอะไรกับจิตใจที่ต้องการความสุข ใครที่ต้องการความสุข การตื่นรู้ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเขาทั้งนั้น

ไม่ต่อสู้กับความมืด
อุปสรรคสำคัญของการตื่นรู้ คือ ตัวเอง การงม การจมแช่ กำหนดให้มีรูปแบบ แนวทาง ความเชื่อ และเมื่อไรที่เราออกจากสิ่งเหล่านี้ได้ นั่นคือการตื่นรู้และเป็นอิสระจากตัวเอง

ปล่อยตัวเองออกจากสนามรบ
ถูกชีวิตบังคับให้เลือกว่าจะเปลี่ยนวิถีทางและวิธีเดินอย่างไรเพื่อจัดการกับปัญหา ‘ครอบครัว’ และ ‘เรื่อง(อดีต)ของตัวเอง’

แสงที่ปลดปล่อยพันธนาการ
ในทุกวันนี้ผมนำวิชาทั้งหลายที่ได้ศึกษาและฝึกฝนมาผสมผสานกันเพื่อใช้ในการรักษาสมดุลแบบองค์รวม ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยชี้ให้ผู้สนใจศึกษาเห็นเหตุที่แท้จริงของปัญหาต่างๆ และแนะนำวิธีแก้ไขเพื่อความสุขที่แท้จริง

เห็นโลกภายในที่บิดเบือนสู่สังคมที่ทุกคนรักกัน
“เพียงแค่คนเรารักกันทั้งโลก คนบนโลกใบนี้คงมีความสุขพร้อมๆ กัน”

ชีวิตคือโรงฝึกเพื่อการตื่น
กระบวนกรผู้เชี่ยวชาญการคลี่คลายความขัดแย้งและการเปลี่ยนแปลงองค์กร เคยจัดอบรมเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคลากรมืออาชีพจากหลายประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งรัฐและเอกชนมากกว่า 400 เวิร์คช็อป

ลมหายใจเพื่อส่งต่อปีติสุข
ภายใน บนเส้นทางแห่งการพัฒนาตนเองและพัฒนาผู้อื่น เราลองดูว่า อะไรคือหลักสูตรสำคัญของ ‘วิชาชีวิต’ ที่เธอได้ค้นพบ ตลอดเส้นทางแห่งการเป็นผู้เรียนรู้และแบ่งปันการเรียนรู้ของเธอ

เมื่อการภาวนาคือ “ชีวิต”
“ผมค้นพบว่า การภาวนาคือชีวิต การเจริญสติภาวนาส่งผลให้ชีวิตกลับคืนสู่ความปกติ เปลี่ยนจากผู้ที่ปล่อยจิตใจไหลไปกับความหลงอย่างรุนแรง กลับมาเป็นรู้เนื้อรู้ตัว ใช้ชีวิตที่เบิกบาน ผ่อนคลาย ยอมรับทุกข์ได้ในชีวิตประจำวัน หากยังมีชีวิตอยู่ ในทุกขณะจิตต้องมีความรู้สึกตัว ทำเหตุระลึกรู้ไปทีละขณะๆ ไม่ว่าจะดีจะร้าย สงบหรือฟุ้งซ่าน ก็แค่รู้ลงปัจจุบันอารมณ์ ทำเหตุให้ถึงพร้อม ส่วนผลไม่ต้องไปคาดหวัง ตระหนักชัดว่าเวลาที่เหลือมีไว้เพื่อภาวนา”

รู้เพื่อเลิกวงจรทุกข์
เวลาที่ความคิดหลงทาง เวลาที่เหน็ดเหนื่อย จิตจะสร้างเรื่องราวให้เราได้พบเจอเรื่องราวต่างๆ ตามความเชื่อนั้น การตื่นรู้จะทำให้มองเห็นความธรรมดาของสิ่งต่างๆ และมีความสามารถจะปล่อยสิ่งเหล่านั้นให้เป็นไปตามธรรมชาติเดิม

ตื่นใจไปด้วยกัน
ปวีณ นาคเวียง หรือวิน หนุ่มใต้เครางามจากจังหวัดสุราษฎร์ฯ ตอนเอ็นทรานซ์วินสอบติดคณะวิศวกรรมแต่กลับเรียนจบเป็นบัณฑิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เขาเคยฝึกใช้ชีวิตเป็นช่างไม้ลูกมือครูสล่าอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะออกบวชถือครองเพศบรรพชิตอยู่นาน 6 ปี ระหว่างนั้นพระวินได้รับการถ่ายทอดคำสอนเรื่องโพธิจิตจากหลวงพ่อสด หลังลาสิกขาจึงได้นำองค์ความรู้เรื่องการภาวนามาจัดกิจกรรมด้านการตระหนักรู้ต่อตัวเอง สังคม สิ่งแวดล้อม และได้ร่วมกลุ่มทำกิจกรรมกับวัชรสิทธา

ยอมให้ตัวเองได้ถูกฝึก
นักเยียวยา หรือ Healer จึงเริ่มกลายเป็นอาชีพที่เป็นที่ต้องการในสังคมสมัยใหม่ ครูเอ๋ ทำงานเป็นนักบำบัดและเยียวยาโดยใช้ Minddala* และ Mindtangle* เป็นเครื่องมือ

Oneness เรียบง่าย และหน้าที่มนุษย์
ผมเรียนรู้ว่า รู้รอบแสนโกฏโลก รู้ทั่วแสนโกฏจักรวาล ยังไม่เท่า ‘รู้ใจตน’ จะมีประโยชน์อะไรจากความใคร่กระหายรู้ หากมันไม่ทำให้คุณรู้จักคำว่า ‘ชีวิต’

รู้และตระหนักจึงตื่น
เราจะ ‘รู้ตัว’ ก็ต่อเมื่อฝึกที่จะอยู่กับตัวเองให้ได้ แม้จะรู้สึกด้อยหรือไม่สมบูรณ์เพียงใดก็ตาม

ไม้หอมแห่งการรู้สึกตัว
อะไรคือแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงคนหนึ่งลุกขึ้นมาเปิดบ้านให้กลายเป็นพื้นที่เรียนรู้ คอยต้อนรับผู้คนแปลกหน้ามากมายให้สามารถเข้ามาใช้พื้นที่และธรรมชาติภายในบ้านของเธอเพื่อเรียนรู้ “ตัวเอง” ถึงวันนี้มีนับร้อยชีวิตที่ได้รับประสบการณ์เปลี่ยนแปลงภายใน การค้นพบตนเอง และความประทับใจจาก บ้านไม้หอม พระราม 2 บ้านหลังงามท่ามกลางธรรมชาติของคุณภัทรมน วิเศษลีลา หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม คุณหลีแห่งบ้านไม้หอม

เผชิญทุกข์สู่การพบปัญญาภายใน
สถาปนิกชุมชนบนเส้นทางของการเรียนรู้และเติบโตภายในผ่านโยคะและวิปัสสนา

“ตื่น” เพื่อพลิกฟื้นการอยู่ร่วมกันของมนุษย์
พงศธร ละเอียดอ่อน ทำงานด้าน Industrial design และ product development เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านการออกแบบตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน ให้คำปรึกษาภาคธุรกิจด้านการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ที่มีคุณค่าสู่ตลาด ร่วมจัดหลักสูตรการพัฒนาแนวคิดด้านการออกแบบ ความคิดสร้างสรรค์การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่กับภาครัฐและเอกชน ทั้งยังร่วมงานกับมหาวิทยาลัยด้านการออกแบบ เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนด้านการออกแบบในประเทศ

แสงแสวงในตน : Inner Self Journey
ครูกิ๊บมองว่า การจะเริ่มต้นเดินทางเข้าสู่โลกของใจได้นั้น เราต้องกลับมาทำความเข้าใจกระบวนการในการเห็นความจริงเสียก่อน เพราะใจนั้นเป็นที่มาของความจริง โดยความจริงนั้นแบ่งเป็น 3 จริงคือ จริงของฉัน จริงของเขา และจริงของโลก

ก่อนโลกสลาย บริหารชีวิตและธุรกิจด้วยการตื่น
ผมไม่สามารถระบุได้ว่า จุดเริ่มต้นของการตื่น คือวันไหน รู้แต่เพียงว่ามันซ่อนตัวอยู่ในช่วงปีที่มืดมิดที่สุดในชีวิตผม

ความจริงของความจริง
ผู้อำนวยการศูนย์อนัมคาราเพื่อปัญญาเมตตาและสันติสุข จิตแพทย์ และอาจารย์ถ่ายทอดพุทธศาสนานิกายวัชรยานและอติโยคะ-ซกเช็น

ให้ชีวิตไม่สูญเปล่า
การเติบโตภายในนี้ส่งผลดียิ่งทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ทำให้อยู่กับโลกและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีความสุข ถึงแม้สิ่งภายนอกจะไม่ดี เป็นไปในทางลบมากน้อยอย่างไร แต่ภายในใจนั้นสงบและรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงนั้นเสมอ และคนรอบข้างเห็นได้จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เช่น จากเป็นคนที่มักโกรธ ก็ไม่ค่อยโกรธ เป็นต้น
หนังสือ
ONE
หนึ่งเดียวกัน
444 หน้า ราคา 330 บาท
(เหลือจำนวนจำกัด
- ไม่มีจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป)
สั่งซื้อได้ที่ Wake Up : สื่อปลุกใจ

