กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กน้อยคนหนึ่ง นั่งเศร้าอยู่ในสวนหลังบ้าน ชีวิตช่างสับสน ไม่รู้ต้น ไม่รู้ปลาย
ทันใดนั้น ผีเสื้อตัวหนึ่ง โผบิน ให้ยลโฉมความงาม มันเกาะที่ปลายนิ้วของเด็กน้อยราวจะบอกว่า ฉันอยู่กับเธอเสมอ
ราวมนต์ตราปรากฏ ใจเด็กน้อยช่างสงบเย็น ความปีติแผ่ซ่านสรรพางค์กายและส่วนลึกวิญญาณ
ผีเสื้อจ๋า ทำไมฉันจึงรู้สึกเช่นนี้ มันช่างอัศจรรย์ เมื่อเธออยู่ ฉันไร้ซึ่งความกลัว ไม่มีสิ่งใดต้องหลีกหนี ไม่มีสิ่งใดต้องไขว่คว้า ดิ้นรนตะเกียกตะกาย ผีเสื้อจ๋าเธอจะอยู่กับฉันตลอดไปได้ไหม
จงปลูกดอกไม้สิ เธอมิรู้หรือ ที่ใดมีดอกไม้ ที่นั่นย่อมมีผีเสื้อ
ผีเสื้อจ๋า แล้วฉันจะตามหาเธอได้ที่ไหน
การตามหาไม่ใช่หนทาง จงปลูกดอกไม้ แล้วฉันจะมาหาเธอเอง ไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก ปลูกมันที่บ้านของเธอนี่แหละ
สิ้นคำบอกเล่า ผีเสื้อโผบินจากไป เด็กน้อยเปี่ยมหวัง ศรัทธา ลงมือปลูกดอกไม้ต้นแล้วต้นเล่า ใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน ด้วยใจมั่น
ผ่านวันเวลาไม่นาน ดอกไม้งอกงามตามเหตุปัจจัย
เด็กน้อยได้พบพานผีเสื้อบ่อยขึ้น ผีเสื้อไปๆ มาๆ อยู่เช่นนี้เสมอ
ผีเสื้อจ๋า มีทางใดบ้าง ที่เธอจะอยู่กับฉัน อยู่อย่างถาวร ไม่จากไปไหนอีก
มันง่ายนิดเดียว ขอเธอจงปลูกดอกไม้ให้มากพอ ไม่ต้องทำสิ่งใดให้มากหรือน้อยไปกว่านี้เลย
ท่านทั้งหลาย เราเป็นเช่นเด็กน้อยผู้สับสน
ผีเสื้อแสนสวยคือความตื่นรู้ล่วงผ่านตัณหา
และการปลูกดอกไม้ของเรานี้ มิใช่อื่นใดนอกเสียจากการถือครองชีวาสัมปชัญญะ อยู่ในองค์ธรรม 3 ประการ ได้แก่ เมตตาอัปปมัญญา สัมมาสมาธิ และวิปัสสนากรรมฐาน
ขออนุโมทนากับผู้เขียน และผู้มีส่วนร่วมที่ทำให้หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้น หนังสือเล่มนี้จะเป็นแรงบันดาลใจชั้นดี ที่ทำให้เราทั้งหลาย เกิดพลังใจ ในการปลูกดอกไม้แห่งสติไว้ในชีวิต
เพื่อพบพานกับผีเสื้อได้บ่อยขึ้น
เพื่อวันหนึ่ง เราจักได้ร่วมอาศัยในบ้านหลังเดียวกับผีเสื้อแห่งความตื่นรู้
ขอท่านทั้งหลาย จดจำคำบอกเล่าของผีเสื้อไว้ให้ดี
หากเธอต้องการพบฉัน จงอย่าตามหา แต่จงปลูกดอกไม้ ปลูกมันให้มากพอ แล้วเราจะได้พบกัน แล้วเราจะได้อยู่ร่วมกันนิรันดร์กาล
พศิน อินทรวงค์
คำนิยมจากหนังสือแสงหนึ่งเดียวกัน
Photo by Nandhu Kumar on Unsplash