Search
Close this search box.
32 ข้อ ตัวชี้วัดว่า “ตื่นรู้” มากแค่ไหน
ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ

หลายคนได้ถาม ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ อดีตวิศวกรนาซ่า ผู้ค้นพบการเปลี่ยนแปลงภายใน  และปัจจุบันท่านได้ทำงานเผยแพร่การเข้าถึงการตื่นรู้ ว่าทำไมต้องฝึกสติ ฝึกสติไปแล้ววัดผลยังไง ท่านได้อธิบายง่ายๆ เป็นตัวชี้วัด  Key Behavior Indicators หรือ KBIs ที่มีแนวโน้มพฤติกรรมดังต่อไปนี้

  1. สดใสขึ้น ใจว่าง ๆ โล่ง ๆ (ใจดีหรือดีใจ ไม่เหมือนใจโล่ง ๆ นะ) ไม่อมทุกข์ ไม่หน้าบึ้ง
  2. ยิ้มง่ายขึ้น ยิ้มให้คนอื่นก่อน ไม่ต้องรอให้คนอื่นยิ้มให้ก่อน
  3. ไหว้คนอื่นได้ก่อน ไม่มีข้อแม้ว่า ใครต้องไหว้ใครก่อน
  4. ถ่อมตน ไม่เจ้ายศ ไม่เจ้าอย่าง ง่าย ๆ ติดดิน
  5. รับผิดชอบงานมากขึ้น ไม่อ้าง ไม่หนี อดทน ยอม
  6. มีเมตตามากขึ้น ใช้เมตตาธรรมนำหน้าเหตุผล
  7. เมื่อได้ยินเรื่องราวใด ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะดู สังเกตมากกว่าที่จะด่วนวิจารณ์ ด่วนออกอาการ ด่วนออกอารมณ์ แม้นจะโดนด่า โดนเข้าใจผิด ก็ยังอดทน ควบคุมตนเองได้ ง่าย ๆ ปล่อย ๆ  ไม่เอาเรื่อง ไม่เอาก็ได้
  8. เปิดโอกาสผู้อื่นพูดมากขึ้น ฟังมากขึ้น ไม่ด่วน “สวนกลับ”  ไม่ด่วน “หักคอ”  ไม่ด่วนสรุป ไม่ด่วนฟันธง ไม่แทรกแซงขณะคนอื่นกำลังพูด อัตราการเต้นของหัวใจปกติ ไม่ตูมตาม เมื่อโดนคนอื่นด่า
  9. ยอมรับ เปิดใจ ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างได้ รับฟังอีกมุมมองได้
  10. ขยัน ๆ และ “กล้า” ลงมือทำในเรื่องที่ดี เป็นกุศลต่าง ๆ ทันที โดยไม่มีข้อแม้ ไม่เอาเรื่องในอดีตมาทำให้สะดุดในการที่จะทำ ไม่เอาเรื่องในอนาคตมาหยุดตนเอง ทำตามเป้าหมายได้ ไม่วอกแวก รู้จักโฟกัส
  11. หันไปกตัญญูพ่อแม่ ไปหา ไปดูแล ไปคุยกับผู้มีพระคุณมากขึ้น ครูเก่า เจ้านายที่เคยช่วยสอน ผู้มีอุปการคุณ ฯลฯ
  12. สัตว์เลี้ยงต่าง ๆ จะเดินเข้ามาหา เพราะคนที่ใจสงบ ตื่นรู้ บรรดาสัตว์ในธรรมชาติเขาจะรับรู้
  13. ไม่เมาบุญ ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร
  14. “ให้” บริจาค จิตอาสา ทำเพื่อส่วนรวมมากขึ้น
  15. รู้สึกว่าตนเองเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ รู้สึกว่าผู้คนกับตัวเองเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่รู้จะทำลายกันไปทำไม
  16. คบบัณฑิต หลวงปู่ หลวงพ่อที่ดี ๆ มากขึ้น ไปหา ไปฟังธรรมจากท่านตามโอกาส
  17. ห่างไกลคนพาล อบายมุข
  18. รักษาศีลห้ามาก ๆ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ขโมย ไม่ผิดกาม ไม่โกหกหลอกลวง ไม่ดื่มของมึนเมา
  19. ชื่นชม (appreciation) ผู้คน ยินดีที่คนอื่นได้ดี หรือมีมุทิตานั่นเอง
  20. ไม่นินทาใคร ไม่ทำให้ใครแตกแยก ชวนให้คนสามัคคีกัน
  21. ไม่กังวล หลับสบาย หลับง่าย
  22. ไม่ฝันร้าย เช่น ในฝันไม่รู้สึกวิ่งยากลำบาก ก้าวขาไม่ออกอีกต่อไป ไม่ฝันว่าฟันหัก ไม่ฝันว่า กลับไปเป็นเด็กแล้วเครียดก่อนสอบอีก
  23. ฝันดี เช่น เจอพระ เจอคนดี ๆ  ตื่นขึ้นมาแล้วสดชื่น มีความสุข
  24. นึกอะไร อยากได้อะไรที่ดีๆ เป็นกุศล ไม่นานก็จะได้ หรือมีคนเอามาให้
  25. ยอมคน เช่น ยอมให้แซงคิว ยอมให้เอาเปรียบ ยอมให้ต่อว่า ฯลฯ
  26. ไม่ด่วน “ประเมิน” ตัดสิน ตัดเกรด แบ่งแยก พิพากษา (judgement) ผู้คน ห้อยแขวน (suspend) เอาไว้ก่อน รอดูมากขึ้น เผื่อคาดไม่ถึงบ้าง
  27. รักผู้คนแบบไม่มีเงื่อนไข (unconditional love) ไม่หวังผล ให้ก็คือให้ ไม่มีข้อแม้น ไม่อิจฉา ไม่ริษยา
  28. รู้จักสติที่ฐานกาย ใช้ “กายรู้กาย” ได้มากขึ้น นานขึ้น ต่อเนื่องมากขึ้น รู้ทุกก้าว ทุกอิริยาบถ
  29. “จับ” ความรู้สึก ที่ “ใจ” ของตนเองได้ รู้ว่าใจกุศล อกุศล
  30. “แยกแยะ” จิตกับความคิดได้ รู้จักความคิดจร (ความคิดนอกแผน ความคิดที่ไม่ได้ตั้งใจคิด ความคิดที่ชวนไปเละเทะ ฟุ้งซ่าน ออกนอกทาง ฯลฯ) เป็นนีโอ (พระเอกในหนังเรื่อง The Matrix) ที่สามารถจับกระสุนความคิดที่กิเลสยิงใส่มาได้
  31. กลับไปอ่านหนังสือธรรมะ แล้วเข้าที่ “ใจ” มากขึ้น ร้อง “อ๋อ” มากขึ้น
  32. ไม่กลัวตาย สิ้นข้อสงสัย และไม่งมงายในศีลภายนอก

Photo by Yoann Boyer on Unsplash

Facebook
Email
Twitter
Telegram
Pinterest
Print