ความรู้สึก คือ ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งทางกายและทางใจ อันเป็นผลมาจากความต้องการที่ได้รับหรือไม่ได้รับการตอบสนอง อีกนัยหนึ่ง ความรู้สึกเป็นสัญญาณเตือนที่มีคุณค่าที่มาบอกกับเราว่า ลึกๆ ความต้องการของเรากําลังได้รับการตอบสนองอยู่หรือไม่ ความรู้สึกจึงมีความสําคัญใน แง่ที่บ่งชี้ว่า เราทุกคนคือมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจ และแม้ว่าคําพูดหรือการกระทําของคนอื่นจะเป็นเพียงตัวกระตุ้นให้เรารู้สึกอย่างไร แต่จริงๆ แล้ว โลกภายในของตัวเราเองต่างหากที่ก่อให้เกิดความรู้สึกหนึ่งๆ ขึ้นมา ดังนั้น การระมัดระวังที่จะไม่กล่าวโทษคนอื่นและกลับมารับผิดชอบต่อความรู้สึกของตัวเราเอง ก็คือหนทางของการฝึกฝนและหนทางของการฝึกฝนนี้ ประกอบด้วย
ความต้องการ คือ สิ่งที่มนุษย์ทุกคนต่างมีร่วมกันและเหมือนกันหมด นั่นคือเป็นความต้องการพื้นฐานที่ทําให้มนุษย์ดํารงชีวิตอยู่ได้ หรือเป็นคุณค่าที่ลึกซึ้งของมนุษยชาติ ความต้องการเป็นหัวใจหลักในการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ เพราะถ้าเราเข้าใจความต้องการที่ขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง ของทุกคําพูดและของทุกการกระทํา ทั้งของตัวเองและผู้อื่นแล้ว เราจะเกิดความกรุณาในหัวใจได้แม้ต่อคนที่เรากําลังเป็นคู่ขัดแย้งอยู่ก็ตาม ฉะนั้น หน้าที่ของเราคือการฝึกที่จะค้นหาและทําความเข้าใจความต้องการที่อยู่เบื้องหลังนั้น
นอกจากการฝึกสะท้อนความรู้สึกและความต้องการแล้ว ในการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ เรายังสามารถฝึกการให้ข้อสังเกต และการขอร้องกับคู่สนทนาได้ด้วย
การสกัดปัดทิ้งให้เป็นชายขอบ (Marginalization) เป็นการแบ่งแยกหรือเลือกปฏิบัติต่อบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่ชอบ ไม่ให้คุณค่า (หรือชอบหรือให้คุณค่าน้อยกว่า) ออกจากสิ่งที่เราชอบ ที่เราให้คุณค่า (หรือชอบหรือให้คุณค่ามากกว่า) ทั้งนี้ อาจเป็นการกระทําที่เรากระทําต่อ ผู้อื่นหรือสิ่งอื่น หรือเป็นการกระทําที่เรากระทําต่อตัวเองหรือคุณลักษณะ บางอย่างในตัวเองก็ได้ การสกัดปัดทิ้งให้เป็นชายขอบ จะทําให้เกิดความรู้สึกว่า สิ่งที่ดีที่ใช่ ฉันจะเอา ส่วนสิ่งที่ดีที่ไม่ใช่ ฉันจะไม่เอาและต้องกําจัดทิ้งไป นํามาซึ่งการไม่ยอมรับต่อความแตกต่างหลากหลาย รวมถึงไม่ยอมรับต่อความเท่าเทียมกันในเชิงคุณค่า
การที่เราเริ่มฝึกตัวเองให้เท่าทันต่อการสกัดปัดทิ้งให้เป็นชายขอบย่อมนํามาซึ่งการก้าวข้ามข้อจํากัดและเงื่อนไขเดิมในตนเอง ใจจะเปิดกว้าง สู่การเห็นเชื่อมโยงไปสู่อีกด้านหนึ่งของชีวิต เห็นความหมายและความ เป็นไปได้ใหม่ๆ และแผ่ขยายจิตสํานึกของตนเองให้กว้างขวางและหลอม รวมมากขึ้น การฝึกปฏิบัติต่อไปนี้จะช่วยให้ผู้ฝึกเปิดพื้นที่ให้กับสิ่งที่เคย สกัดปัดทิ้ง สิ่งที่เราไม่เคยให้คุณค่า โดยการกลับไปได้ยิน โอบอุ้ม และทําความเข้าใจต่อสิ่งเหล่านั้นในตนเอง เพื่อให้เกิดการหลอมรวมและฟื้นคืน ความเป็นมนุษย์ในตัวเองให้เต็มเปี่ยมมากยิ่งขึ้น
จากนั้นลองฝึกปฏิบัติในอีกลักษณะหนึ่ง
ขอบคุณที่มา
หนังสือ สู่ศักยภาพแห่งความเป็นมนุษย์ คู่มือการจัดกระบวนการพัฒนาจิตวิญญาณ
รศ.ดร.รัตติกรณ์ จงวิศาล ผศ.ดร.สมสิทธิ์ อัสดรนิธี ดร.ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ บาทหลวงวิชัย โภคทวี