การเชื่อมโยงสัมพันธ์กับสังคมและธรรมชาติ (Connect to Society and Environment)

การเชื่อมโยงสัมพันธ์กับสังคมและธรรมชาติ (Connect to Society and Environment)

ชุดกิจกรรมที่ 3

การเชื่อมโยงสัมพันธ์กับสังคมและธรรมชาติ (Connect to Society and Environment)

กิจกรรมในชุดนี้ ประกอบไปด้วยกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เข้ารับการอบรมเกิดความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับสังคมและธรรมชาติ เริ่มต้นจากการฝึกทักษะเพื่อให้เกิดประสบการณ์การตระหนักรู้ถึงสายสัมพันธ์ (Connection) ที่ตนเองมีต่อคนและธรรมชาติรอบตัว เปิดใจเรียนรู้จากธรรมชาติด้วยความเคารพ มองธรรมชาติด้วยสายตาของมิตร จนเกิดความความเชื่อมโยงสัมพันธ์ระหว่างตัวเราและสรรพสิ่งทั้งหลาย จนถึงจักรวาลและความเป็นทั้งหมด 

กิจกรรม สามเหลี่ยมด้านเท่า

จุดประสงค์ :
  1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมตระหนักรู้ถึงสายสัมพันธ์ (Connection) ที่ตนเองมีต่อคนและธรรมชาติรอบตัว
  2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเข้าใจว่าเมื่อเราพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเอง จะสามารถส่งผลต่อสิ่งอื่น ๆ รอบตัวได้
ระยะเวลาการฝึกอบรม : 1 ชั่วโมง
รายละเอียดสําหรับกระบวนกร :
  1. ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมยืนขึ้นและนําเก้าอี้ไปไว้รอบห้อง เปิดพื้นที่บริเวณตรงกลาง ให้ทุกคนมา รวมตัวกันบริเวณตรงกลาง ยืนกันเป็นกลุ่ม ไม่มีการสื่อสารด้วยวาจา กระบวนกรขอให้เลือกเพื่อนของเราไว้ใน ใจสองคน โดยไม่ต้องบอกเขา เมื่อเลือกในใจแล้วห้ามเปลี่ยนเพื่อนที่เราเลือกไว้ในใจ เราจะต้องขยับเขยื้อน ตัวเองไปหาเพื่อน ขยับไปจนกระทั่งให้เราและเพื่อนอีก 2 คน ทํามุมและระยะให้ได้เป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า
  2. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเริ่มเคลื่อนไหว โดยใช้ระฆังเคาะเป็นสัญญาณ รอจนกระทั่งหยุดนิ่ง กระบวน กรเช็คบางคนว่าทํามุมกับเพื่อนเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่าได้จริงหรือไม่
  3. กระบวนกรขอให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมบางส่วนขยับที่ แล้วให้ทุกคนทําสามเหลี่ยมด้านเท่าใหม่ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าทุกคนต้องขยับเปลี่ยนตําแหน่งใหม่ทั้งหมด ขยับเช่นนี้อีก 2 รอบ เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้ประสบการณ์
  4. กระบวนกรให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสะท้อนความคิดตัวเองดูว่ากิจกรรมนี้ให้แง่คิดอะไรบ้าง กระบวน กรเดินไปสอบถาม บางคนว่าใครคือสองคนในใจของเขา และรู้สึกอย่างไรหรือได้แง่คิดอะไรบ้าง
  5. หลังจากนั้นเข้ากลุ่มรวม แล้วให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมแสดงความคิดเห็นของตนเองว่าได้อะไรบ้าง จากกิจกรรมนี้
  6. กระบวนกรสรุปข้อคิดที่ได้รับ และอาจเสริมข้อคิดในเรื่อง “Butterfly Effect” “เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว” เชื่อมโยงกับเรื่องสายสัมพันธ์ (Connection) ที่ตนเองมีต่อคนและธรรมชาติรอบตัวและ การเปลี่ยนแปลงตนเองสามารถส่งผลต่อสิ่งอื่น ๆ รอบตัวได้
  7. กระบวนกรถามคําถามให้แบ่งปันกันว่า ในที่ทํางานของเรา เราจะทําอะไรได้บ้างเพื่อให้ส่งผลต่อ สังคมและธรรมชาติได้
สื่อการสอน : ระฆัง

กิจกรรม ปลีกวิเวก

จุดประสงค์ :
  1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ออกเดินในธรรมชาติ และพบ “เพื่อน” ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ
  2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เปิดใจเรียนรู้จากธรรมชาติด้วยความเคารพ และฝึกหัดที่จะมองธรรมชาติด้วยสายตาของมิตร
ระยะเวลาการฝึกอบรม : 2 ชั่วโมง
รายละเอียดสําหรับกระบวนกร :
  1. กระบวนกรอธิบายว่าจะให้ทุกคนออกเดินตามลําพังในความเงียบไปในธรรมชาติ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ให้แต่ละคนเดินตามสิ่งที่เรียกเราไป และเมื่อพบสถานที่หรือสิ่งที่เรียกเรา ให้เราหยุดอยู่กับสิ่งนั้น สร้างความสัมพันธ์ เปิดใจรับและเรียนรู้จากสิ่งนั้นด้วยความเคารพ
  2. กระบวนกรสร้างวงกลมบนพื้นจากวัสดุตามธรรมชาติ เช่น ก้อนหิน ดอกไม้ กิ่งไม้ ให้ทุกคนมายืน ล้อมวงกลมนี้ ใครพร้อมที่จะออกไปพบเพื่อน ก็ให้เข้ามาในวงกลม ตั้งจิตว่าให้สรรพสิ่งในธรรมชาติเป็นเพื่อน ของเรา เปิดใจพร้อมสร้างความสัมพันธ์กับสรรพสิ่ง แล้วเดินออกไป ถือว่าแต่ละคนเข้าประตูกลับคืนสู่ธรรมชาติ ไป เมื่อออกไปแล้วถือว่าคนนั้นหายตัวไป แม้จะมองเห็นเพื่อน แต่ให้ถือว่าเราจะไม่เห็นกันและกัน
  3. เมื่อครบเวลา กระบวนกรเชิญระฆังเป็นสัญญาณให้กลับมา โดยแต่ละคนต้องกลับมาที่วงกลมก่อน ระลึกถึงบทเรียนหรือความเข้าใจที่ได้รับจากเพื่อนในธรรมชาติ แล้วจึงออกจากวงกลม ถือว่ากลับมาสู่โลกปกติแล้ว
  4. กระบวนกรเชื้อเชิญให้แต่ละคนแลกเปลี่ยนแบ่งปันสิ่งที่ได้รับจากการไปอยู่ในธรรมชาติเงียบๆ คนเดียว
สื่อการสอน : ระฆัง

กิจกรรม กอดธรรมชาติ

จุดประสงค์ :

เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้สัมผัสธรรมชาติ และรู้สึกเป็นมิตรกับธรรมชาติ

ระยะเวลาการฝึกอบรม : 1.30 ชั่วโมง
รายละเอียดสําหรับกระบวนกร :
  1. กิจกรรมนํา ให้ทุกคนจับคู่กัน (อาจจะจับคู่กับคนที่เราเคยพูดกับเขาน้อยที่สุด) จากนั้นให้นั่งหันหลัง ชนกัน ค่อยๆ หลับตาลงและลองสังเกตตนเองว่ารู้สึกอย่างไร สังเกตว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรรอบตัวเราบ้าง ใช้ความรู้สึก สัมผัสถึงการหายใจของตนเองและของเพื่อนว่ามีความสัมพันธ์ หรือสอดคล้องกันอย่างไรบ้าง จากนั้นค่อยๆ ลืมตาขึ้น และให้คนที่ผมสั้นกว่าหันหลังกลับมาหาเพื่อนแล้วใช้มือจับไหล่เพื่อน ค่อยๆหลับตาลง อยู่กับตนเอง สํารวจความรู้สึกของตนเอง และลองรับรู้ถึงความรู้สึกของเพื่อนที่อยู่ตรงหน้า รับรู้ถึงพลังของ เพื่อนจากนั้นให้สลับกัน (หันหลังแล้วทําแบบเดียวกัน)
    ให้ทุกคู่นั่งหันหน้าเข้าหากัน และให้ทุกคนหลับตาลงอีกครั้งหนึ่ง ลองมาอยู่กับตัวเองอีกครั้ง สํารวจ ความรู้สึกภายในอีกครั้ง จากนั้นให้ทุกคนค่อยๆ ลืมตาขึ้น สัมผัสเพื่อน เปิดรับเพื่อน ลองมองเพื่อนที่อยู่ตรงหน้า ว่ามีส่วนไหนที่เรายังไม่รู้จักเพื่อน ให้รับรู้ถึงการมีอยู่ของเพื่อน
    ลองสังเกตใจของตนเองเมื่อสักครู่ว่ารู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่กับตนเองและอยู่กับเพื่อน
  2. หลังจากการสัมผัสกับเพื่อน ต่อไปจะเป็นการไปสัมผัสกับธรรมชาติ กระบวนกรให้ผู้เข้ารับการ ฝึกอบรมออกไปอยู่กับธรรมชาติ ประมาณ 45 นาที โดยแนะนําให้เขาอยู่กับธรรมชาติเหมือนเป็นเพื่อนที่เรา สัมผัสได้เหมือนอย่างในกิจกรรมนํา ขอให้เดินอย่างมีสติ และสัมผัสกับธรรมชาติ โดยไปคนเดียว ไปหามุมใดมุมหนึ่ง อาจจะเลือกยืน หรือนั่งอยู่กับธรรมชาติ เช่น ต้นไม้บางต้น ซึ่งอาจจะไปสัมผัสโอบกอดต้นไม้ที่เราต้องการได้ให้เปิดรับหรือฟังและสัมผัสกับธรรมชาติ
  3. กระบวนกรให้สัญญาณหมดเวลา ให้แต่ละคนค่อยๆ เดินกลับมาในความเงียบ แล้วกระบวนกรให้ จับกลุ่ม 4 คน แบ่งปันความรู้สึกที่ได้รับจากการทํากิจกรรม หรือแบ่งปันว่าธรรมชาติให้อะไรหรือบอกอะไรกับเรา
  4. นั่งล้อมวงเป็นวงใหญ่ ให้ทุกคนแบ่งปันความรู้สึกในวงใหญ่ กระบวนกรอาจตั้งคําถามถึงความรู้สึกที่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีตอนการนั่งสัมผัสเพื่อน กับตอนสัมผัสกับธรรมชาติ ว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
  5. กระบวนกรสรุปถึงความสําคัญของมุมมองของมนุษย์ที่มีต่อธรรมชาติ การมองธรรมชาติไม่ใช่เป็น เพียงวัตถุ แต่เป็นการมองธรรมชาติว่าเป็นสิ่งที่มีชีวิต เป็นเหมือนเพื่อน ญาติพี่น้องของเรา
  6. กระบวนกรถามคําถามกับกลุ่มว่า ในที่ทํางานของเราจะสร้างบรรยากาศของการมีความสัมพันธ์กับ ธรรมชาติได้อย่างไรบ้าง
สื่อการสอน : ระฆัง

กิจกรรม เส้นทางเดินของจักรวาล

จุดประสงค์ :
  1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างเราและสรรพสิ่งทั้งหลาย ผ่านการเดินบน เส้นทางวิวัฒนาการของจักรวาล
  2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เห็นว่ามนุษย์เป็นเพียงจุดเล็กๆ ของจักรวาล
ระยะเวลาการฝึกอบรม : 1.30 ชั่วโมง
รายละเอียดสําหรับกระบวนกร :
  1. กระบวนกรเชิญผู้เข้ารับการฝึกอบรมออกมานอกห้องประชุม และกล่าวว่าจะนําผู้เข้ารับการ ฝึกอบรมเดินทางที่เปรียบเสมือนการเดินทางจากจุดกําเนิดของโลก ที่ผ่านมาสิบห้าพันล้านปี เดินย้อนกลับไป จนถึงเวลาปัจจุบัน กระบวนกรเชิญชวนให้คิดว่าโลกคือสิ่งมีชีวิตเหมือนกับเรา เดินเสมือนว่าเราและจักรวาล เป็นส่วนหนึ่ง เรามีชีวิต เขาก็มีชีวิต โดยจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที
  2. กระบวนกรนําผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้เดินไปตามทางในความเงียบ โดยหยุดตามจุดที่หมายระยะ เอาไว้ แล้วอ่านขบวนการก่อกําเนิดจักรวาลตามช่วงเวลาต่าง ๆ
  3. เมื่อเดินจนมาถึงจุดสุดท้าย ให้ทุกคนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วระลึกว่า อนาคตของจักรวาลนี้อยู่ เบื้องหน้าเราแล้ว
  4. ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมานั่งล้อมวง เพื่อร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์และข้อคิดที่ได้จากกิจกรรม และกระบวนกรสรุปข้อคิดที่ได้จากผู้เข้ารับการฝึกอบรมในเรื่องการเชื่อมโยงระหว่างตัวเราและสรรพสิ่งทั้งหลาย
  5. ปิดท้ายด้วยการเสริมข้อคิดในเรื่อง “บัญญัติ 10 ประการของชาวอินเดียนแดง
สื่อการสอน : 1. บทความ “เส้นทางเดินของจักรวาล” 2. “บัญญัติ 10 ประการของชาวอินเดียนแดง”

ขอเชิญทุกท่านร่วมเดินทางกลับไปสู่ต้นกําเนิดแห่งจักรวาล ที่มาของโลกและของเรา

1) แรกเริ่มเดิมที ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเป็นเพียงความดํามืด แล้วถึงจุดหนึ่งเมื่อ 15 พันล้านปีมาแล้ว ใน ชั่วพริบตา จักรวาลก็ก่อกําเนิดขึ้น เปล่งประกายด้วยพละกําลังอันไม่สิ้นสุดขยายตัวออกแล้วเย็นลงอย่าง รวดเร็ว พลังงานเริ่มจัดตัวเป็นอนุภาคพื้นฐานต่างๆ ก่อให้เกิดอะตอมของไฮโดรเจนและฮีเลียม

2) พันล้านปีต่อมา กาแลกซี่และดวงดาวก่อกําเนิดขึ้น ไฮโดรเจนและฮีเลียมรวมกันเป็นโครงสร้างต่างๆ ก่อให้เกิดนับพันล้านสรรพสิ่ง ดวงดาวเปลี่ยนแปลงไฮโดรเจนและฮีเลียมเป็นธาตุที่แข็งกว่าเดิมคือ คาร์บอน ออกซิเจน และอลูมิเนียม ดาวใหญ่ๆ บาดวง เมื่อหมดอายุขัย จะระเบิดเป็นซุเปอร์โนวา ปล่อยแร่เหล็ก ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม แคลเซียม และออกซิเจน ออกมา แร่ธาตุเหล่านี้จะรวมกันเข้าอีก เป็นดวงดาวรุ่นที่สอง เกิดและดับ แล้วเกิดและดับอีก จนกลายเป็นท่วงทํานองของจักรวาล จักรวาลกลายเป็นครรภ์มารดาที่ ก่อกําเนิดธาตุพื้นฐานของชีวิต

3) 4.6 พันล้านปีมาแล้ว ดวงดาวรุ่นคุณยายทั้งหลาย เกิดระเบิดออกกลายเป็นดาวฤกษ์ที่เราเรียกเธอ ว่า ดวงอาทิตย์ คุณยายมีขนาดใหญ่กว่าขณะนี้ถึง 5 ล้านเท่า องค์ประกอบหลักของคุณยายคือ ไฮโดรเจน

4) 4.5 พันล้านปีมาแล้ว ระบบสุริยะก่อกําเนิดขึ้นจากสิ่งที่เหลือจากการระเบิดของคุณยายดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ต่างๆ อุบัติขึ้นในครอบครัวระบบสุริยะของเรา รวมถึงดาวเคราะห์สีฟ้าขาว อันเป็นบ้านของเราด้วย เมื่อแรกเริ่ม โลกของเราถูกอุกกาบาตวิ่งชนจนปั่นป่วน แรงระเบิดทําให้เกิดดวงจันทร์ขึ้น รวมทั้งทําให้โลกเซถลา เอียงไป 23 องศา

5) 460 ล้านปีก่อน สัตว์พวกหนอนและหอยเริ่มขึ้นมาจากน้ํา มาเผชิญกับอากาศบนบกและแรงดึงดูด ของโลก สาหร่ายกับราก็เริ่มขึ้นมาบนบก มอสปรากฏขึ้นมา เป็นพืชชนิดแรก แมลงเกิดขึ้น น้ําหนักตัวบางเบา ของเจ้าพวกนี้ ทําให้มันเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดแรกที่บินได้

6) 395 ล้านปีก่อน ป่าเขตร้อนเกิดขึ้นมา ป่าเหล้านี้ดึงคาร์บอนจากอากาศมาเก็บไว้ แล้วที่สุดก็ เปลี่ยนเป็นซากฟอสซิล เช่น ถ่านหิน และน้ํามัน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ําวิวัฒนาการเป็นสัตว์เลื้อยคลาน การวางไข่ บนบกได้ ทําให้พวกมันแพร่ไปบนพื้นดินอย่างรวดเร็ว

7) 235 ล้านปีก่อน เกิดการสูญพันธุ์ขนาดใหญ่อีกครั้ง สิ่งมีชีวิต 95% สูญหายไปจากโลก เปิดทางให้ ไดโนเสาร์ได้พัฒนาขึ้นมาแทนที่ บางตัวใหญ่ถึง 40 เมตร สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมถือกําเนิดขึ้นท่ามกลางยักษ์ใหญ่ ไดโนเสาร์ มันยังมีขนาดเล็กเท่าหนู หากินเฉพาะยามกลางคืน และพัฒนาต่อมน้ํานมขึ้นมาเลี้ยงดูลูกอ่อน

8) 150 ล้านปีก่อน นกเกิดขึ้นบนโลก โดยสืบสายวิวัฒนาการจากไดโนเสาร์ กระดูกขากรรไกร เปลี่ยนเป็นจงอยปาก เกล็ดกลายเป็นขนนก ปีกนกสมัยนั้นใหญ่ถึง 12 เมตรพืชพัฒนาดอกไม้ขึ้นมา ดึงดูดแมลง ด้วยสีสันงดงาม โลกเราจึงได้ชื่นชมการเริงระบําของหมู่ดอกไม้

9) 60 ล้านปีก่อน เกิดการสูญพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่อีก อุกกาบาตขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบ 10 กิโล วิ่ง เข้าชนโลก ทําให้ชั้นบรรยากาศปกคลุมไปด้วยฝุ่นควัน อุณหภูมิของโลกลดต่ําลง ไดโนเสาร์สูญพันธ์ เปิดโอกาส ให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมออกมาหากินยามกลางวัน ยึดพื้นที่แทนไดโนเสาร์อย่างรวดเร็ว ตลอด 60 ปีล้านปีถัดมา โลกได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ๆ เช่น หนู ปลาวาฬ ลิง ม้า แมว อุรังอุตัง ช้าง หมี หมู และมนุษย์คนแรก นี่คือยุค ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

10) 4 ล้านปีก่อน บรรพบุรุษของมนุษย์ย้ายถิ่นฐานออกจากป่า ออกมาเดินตัวตรงด้วย 2 ขาในทุ่งหญ้า 1 แสนปีก่อน มนุษย์ยุคปัจจุบันถือกําเนิดขึ้นในแอฟริกา5 หมื่นปีก่อน มนุษย์ออกเดินทางจากแอฟริกา ประทับ รอยเท้าไปทั่วโลก

11) 1 หมื่นปีก่อน มนุษย์เริ่มระบบเกษตรกรรม3000 ปีก่อน ศาสนาหลักๆ ของโลกถือกําเนิดขึ้น 250 ปีก่อน นักวิทยาศาสตร์เริ่มคํานวณอายุของโลก 70 ปีก่อน นักวิทยาศาสตร์พบว่าจักรวาลกําลังขยายตัว 30 ปี ก่อน ยานอวกาศถ่ายภาพโลกได้ แล้วเราก็ได้ชื่นชมความงามของดาวเคราะห์สีฟ้าขาวที่เป็นบ้านของเราเป็นครั้งแรก

12) ขอให้เรามองออกไปเบื้องหน้า ดูท้องทะเลสีน้ําเงิน ท้องฟ้า พื้นแผ่นดิน สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ระลึกถึง การเดินทางอันยาวนาน จนกว่าพวกเราทั้งหมดจะมาถึงจุดนี้ได้ ณ ที่นี่ เวลานี้ เรื่องราวในอนาคตของจักรวาล ขึ้นอยู่กับพวกเราแล้ว

กิจกรรม สายใยแห่งชีวิตจากอาหารมื้อนี้

จุดประสงค์ :
  1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเข้าใจสายสัมพันธ์อันเป็นเหมือนห่วงโซ่อันซับซ้อนที่เชื่อมโยงตัวเรากับ สรรพสิ่งในธรรมชาติและผู้คนในสังคม
  2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสร้างความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการรับประทานอาหาร
ระยะเวลาการฝึกอบรม : 1.30 ชั่วโมง
รายละเอียดสําหรับกระบวนกร :
  1. กระบวนกรแบ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมออกเป็น 4 กลุ่ม ให้รับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน แต่ละ กลุ่มจะได้รับมอบหมายให้พิจารณาอาหารต่างกันกลุ่มละจาน ให้พิจารณาว่าอาหารจานนี้ เกี่ยวข้องทั้งพืช คน สัตว์ อย่างไรบ้าง และเกี่ยวข้องกับแร่ธาตุ ผืนดิน และสิ่งอื่น ๆ ในธรรมชาติอย่างไร ให้คิดให้ได้มาก ที่สุดเท่าที่กลุ่มจะคิดได้
  2. ให้แต่ละกลุ่มวาดภาพความสัมพันธ์นี้ลงในกระดาษฟลิปชาร์ท
  3. ให้แต่ละกลุ่มนําเสนอความสัมพันธ์ในอาหารที่กลุ่มรับประทานในมื้อกลางและตามที่ได้รับ มอบหมายในวงใหญ่ เช่น กลุ่มข้าว/ไก่ทอด/ผัดวุ้นเส้น และให้แต่ละกลุ่มสรุปกิจกรรมถึงห่วงโซ่ความสัมพันธ์นี้
  4. ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมานั่งล้อมวง เพื่อแบ่งปันว่าเราได้เห็นสายสัมพันธ์ระหว่างเราและสรรพสิ่ง ผ่านอาหารที่เรากินอย่างไรบ้าง และเราจะดูแลรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใส่ใจการเลือกซื้ออาหา นิสัยการบริโภคของเราได้อย่างไรบ้าง
สื่อการสอน : 1. กระดาษฟลิปชาร์ท 2. สี

กิจกรรม ก้าวที่แตกต่าง

จุดประสงค์ :
  1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมตระหนักถึงความแตกต่างเหลื่อมล้ําของผู้คนในสังคม
  2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเกิดความรู้สึกรับผิดชอบต่อผู้อื่นที่แตกต่างจากเราในสังคม
ระยะเวลาการฝึกอบรม : 1 ชั่วโมง
รายละเอียดสําหรับกระบวนกร :
  1. กระบวนกรแจกบทบาทให้แต่ละคน โดยบทบาทนี้จะสะท้อนถึงคนในแต่ละชนชั้นของสังคม เมื่อแต่ ละคนได้รับบทแล้วห้ามบอกคนอื่นๆ ตัวอย่างบทบาท เช่น รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ครูโรงเรียนมัธยม กรรมกรก่อสร้าง คนตาบอดขายลอตเตอรี่ มหาเศรษฐี 7 หมื่นล้าน แม่ชีในวัด
  2. ให้ทุกคนยืนเรียงแถวหน้ากระดานเรียงเดี่ยว กระบวนกรจะอ่านข้อความทีละข้อ ถ้าใครคิดว่า ตนเองทําตามข้อความนั้นได้ให้ก้าวออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ใครทําไม่ได้ก็ให้ยืนเฉยๆ ตัวอย่างข้อความก็เช่น

ใครสามารถมีอาหารกินได้ครบสามมื้อบ้าง ใครสามารถมีน้ําสะอาดดื่มได้บ้าง

ใครสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้บ้าง

ใครสามารถเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนได้บ้าง

ใครสามารถมีประกันสุขภาพได้บ้าง

ใครสามารถซื้อรถมือหนึ่งขับได้บ้าง

ใครสามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้บ้าง

ใครสามารถมีโทรศัพท์มือถือได้บ้าง

ใครสามารถมีบัตรเครดิตได้บ้าง

ใครสามารถอ่านหนังสือได้บ้าง

ใครสามารถไปเที่ยวต่างประเทศได้บ้าง

ใครสามารถซื้อกระเป๋าแอร์เมสได้บ้าง

ใครสามารถมีงานประจําทําได้บ้าง

ใครสามารถมีเงินฝากในบัญชีธนาคารได้บ้าง

ใครสามารถซื้อที่ดินได้ตามใจต้องการได้บ้าง

ใครสามารถควบคุมตลาดหุ้นได้บ้าง

ใครสามารถกําหนดนโยบายเศรษฐกิจได้บ้าง

ใครสามารถซื้อทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษได้บ้าง

  1. กระบวนกรเชื้อเชิญให้ทุกคนหันไปดูความแตกต่างของตําแหน่งแต่ละคนในห้อง ให้แต่ละคนเฉลยว่าตนเองได้รับบทอะไร
  2. เชิญให้คนในแต่ละตําแหน่งพูดกับคนในตําแหน่งต่าง ๆ
  3. สรุปการเรียนรู้ร่วมกัน ประเด็นคําถามสําคัญคือ เราจะทําอย่างไรกับความเหลื่อมล้ําในสังคมที่เรา
สื่อการสอน : ฉลากใบบทบาทประกอบด้วยชนชั้นสูง เช่น มหาเศรษฐีแสนล้าน ผู้บริหารประเทศ จากชนชั้นกลาง เช่น นายห้างทอง นักศึกษาปริญญาโท เจ้าของกิจการ SME และจากชนชั้นล่าง คนด้อยโอกาสต่างๆ เช่น แม่ค้า ตาบอดขายลอตเตอรี่ คนพิการซ้ําซ้อน กรรมกรต่างด้าว ผู้ต้องหาในเรือนจํา ผู้อพยพไร้บ้าน ฯลฯ หมายเหตุ: ทํากิจกรรมนี้ แล้วตามด้วยกิจกรรมเส้นแบ่ง จะช่วยให้การเรียนรู้อย่างลงลึกขึ้น

กิจกรรม เส้นแบ่ง

จุดประสงค์ :
  1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสร้างความตระหนักที่จะรับผิดชอบต่อผู้อื่นในสังคม
  2. กิจกรรมนี้ทําต่อเนื่องจากกิจกรรมก้าวที่แตกต่าง เนื่องจากหลังจากกิจกรรมก้าวที่แตกต่างแล้ว ผู้เข้าร่วมต่างก็อยากจะสนใจผู้คนที่ด้อยกว่าเราในสังคม แต่กิจกรรมเส้นแบ่งนี้ทําให้เห็นว่า เมื่อมีเส้นแบ่งขึ้นใน สังคมที่ทําให้ต้องแก่งแย่งแข่งขันกันแล้ว บางครั้งเราก็ไม่กล้าที่จะทําเพื่อผู้อื่นเสมอไป กิจกรรมนี้จะทําให้ ผู้เข้าร่วมได้ตระหนักถึงเส้นแบ่งนั้น และเกิดความคิดสร้างสรรค์ที่จะทําลายเส้นแบ่งนั้น และสร้างให้เกิดการแบ่งปันและความเท่าเทียมกันในสังคม
ระยะเวลาการฝึกอบรม : 1 ชั่วโมง
รายละเอียดสําหรับกระบวนกร :
  1. ให้แต่ละคนยังยืนอยู่ที่เดิมตามกิจกรรมก้าวที่แตกต่าง กระบวนกรแบ่งคนให้อยู่ในสองเขต เขตที่ หนึ่งสําหรับชนชั้นล่างและชนชั้นอื่นๆ ที่มีจํานวนมากกว่า โดยติดกระดาษกาวเป็นเส้นแบ่ง และเขตที่สอง สําหรับคนที่เป็นชนชั้นสูงมีจํานวนคนน้อยกว่า
  2. กระบวนกรวางกระดาษลงบนพื้นในแต่ละเขต ชนชั้นสูงได้กระดาษเยอะกว่า ชนชั้นล่างและชนชั้น อื่น ๆ ได้กระดาษน้อยกว่า เมื่อกระบวนเปิดเพลง ให้ทุกคนเดินไปเดินมาในเขตตัวเองโดยไม่เหยียบกระดาษ แต่ เมื่อกระบวนกรปิดเพลง ให้ทุกคนรีบไปยืนบนกระดาษที่วางไว้ ใครที่ไม่มีกระดาษยืนให้ออกจากวง
  3. เล่นเกมนี้ไป 2 รอบ รอบต่อมาเปลี่ยนกติกาให้ ชนชั้นสูงสามารถหยิบกระดาษจากชนชั้นอื่นได้
  4. ให้ทุกคนนั่งล้อมเป็นวงใหญ่และร่วมกันสรุปการเรียนรู้จากกิจกรรมที่ได้ทํา และตอบคําถาม เช่น ความรู้สึกของคนที่สวมบทบาทเป็นชนชั้นล่างและความรู้สึกของชนชั้นสูง สิ่งที่พวกเราคิดว่าควรจะทําหรืออยากทําแต่ไม่ได้ทํา
สื่อการสอน : 1. กระดาษ A4 2. กระดาษกาว 3. เพลง

กิจกรรม ชมภาพยนตร์

จุดประสงค์ :

เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เรียนรู้ประสบการณ์และแนวคิดเกี่ยวกับการรับผิดชอบต่อสภาวะแวดล้อมต่างๆ ที่ถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์

ระยะเวลาการฝึกอบรม : 2 ชั่วโมง
รายละเอียดสําหรับกระบวนกร :
  1. กระบวนกรเลือกภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับคนกับธรรมชาติ หรือปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อมต่างๆ และ ทางออกของปัญหา เช่น เรื่อง The Education of Little Tree, The Story of Stuff คลิปรายการเรื่องเล็ก เขย่าโลก ตอนขวด (น้ํา) พลาสติก
  2. กระบวนกรเกริ่นนํา อธิบายเนื้อเรื่องย่อของภาพยนตร์ที่เลือก และให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมดูภาพยนตร์ร่วมกัน
  3. ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมไตร่ตรองเนื้อหาและข้อคิดที่ได้จากการรับชมภาพยนตร์ จากนั้นให้ทุกคน แบ่งปันข้อคิดที่ได้ร่วมกัน
สื่อการสอน :

ภาพยนตร์เรื่อง The Education of Little Tree, The Story of Stuff คลิปรายการเรื่องเล็กเขย่า โลก ตอนขวด (น้ํา) พลาสติก คลิปฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วางหรือภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างเรื่องย่อ The Education of Little Tree เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เด็กชายเชอโรกีวัย 8 ขวบใน แถบเทือกเขาสโมคกี้ของรัฐเทนเนสซีในช่วงทศวรรษที่ 1930 เด็กชายนี้คือลิตเติลทรี ที่ถูกส่งไปอยู่กับปู่ย่าที่อยู่ ในเทือกเขาหลังเสียพ่อและแม่ไป นี่เป็นจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ของลิตเติลทรี ที่เต็มไปด้วยความรื่นเริง การค้นพบ เรื่องราวต่างๆ ความสัมพันธ์กับธรรมชาติ และเพื่อนดีๆในภาพยนตร์จะมีคําสอนที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติ

ตัวอย่างเรื่องย่อ The Story of Stuff เป็นเรื่องราวของ แอนนี เลนนาร์ด (Annie Leonard) ที่เริ่มต้น จากเธอเกิดความสงสัยว่าข้าวของเครื่องใช้รอบตัวเรามาจากไหนกันบ้างและมันจะเดินทางไปไหนต่อเมื่อเราโยนทิ้งความสงสัยทําให้เธอต้องออกไปค้นหาคําตอบด้วยตัวเองเธอใช้เวลานานกว่า 10 ปีเดินทางไปทั่วโลก เพื่อที่จะพบว่า เรื่องราวเกี่ยวกับข้าวของต่างๆ นั้น ไม่ได้มีแค่การใช้ทรัพยากร การผลิต การจัดจําหน่าย การ บริโภค และการกําจัดขยะ เหมือนอย่างที่เขียนไว้ในตําราว่าด้วย “Material Economy” แอนนี่อธิบายว่า ทุก ขั้นตอนล้วนต้องสัมพันธ์กันสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม มีผู้คนจํานวนมากใช้ชีวิตและทํางานอยู่ใน ระบบนี้ แต่ความจริงก็คือทั้ง 5 ขั้นตอนรวมกันเป็นระบบที่เรียกว่า “Linear system” นี้ไม่เหมาะเลยกับโลกที่ มีทรัพยากรอยู่อย่างจํากัด

(รายละเอียดของเรื่องสามารถอ่านต่อได้ที่

https://myfreezer.wordpress.com/2008/04/29/thestoryofstuff)

คลิปรายการเรื่องเล็กเขย่าโลก ตอนขวดพลาสติกเป็นรายการที่นําเสนอเกี่ยวกับขวดพลาสติก หรือ

ภาชนะบรรจุน้ําดื่มที่เป็นสิ่งใกล้ๆ ตัวจนเรามองข้าม โดยเสนอว่าคนไทยใช้พลาสติกมากถึงปีละ 4,000 ล้าน

ขวด จนลืมตั้งคําถามว่า “กว่าจะเป็นขวดน้ําพลาสติกเราใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง”ขวดน้ํา 1 ขวด ต้องใช้น้ํา 3 เท่า

ของขวด ในการผลิต และเมื่อกลายเป็นขยะ ต้องใช้เวลานาน 400 ปี หรือ นานกว่านั้นเพื่อย่อยสลายและ

พลาสติกที่ย่อยสลายไม่หมด กําลังกลายเป็นขยะจํานวนมหาศาลในมหาสมุทรเรายังมีทางเลือกอื่นอีกหรือไม่ที่

จะไม่สร้างภาระให้กับโลก….

(สามารถดูคลิปได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=DVj2pfvbM60)

กิจกรรม เดินภาวนาในธรรมชาติ และอ่านสุนทรพจน์ของหัวหน้าเผ่าซีแอตเติ้ล

จุดประสงค์ :

เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ฝึกสติ เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติ

ระยะเวลาการฝึกอบรม : 1 ชั่วโมง
รายละเอียดสําหรับกระบวนกร :
  1. กระบวนกรเชื้อเชิญให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมถอดรองเท้าและนําทุกคนเดินอย่างเงียบ ๆ บนผืนหญ้า อย่างมีสติ ด้วยการรับรู้สัมผัสที่ฝ่าเท้าขณะก้าวเดินใช้เวลา 20 นาที
  2. กระบวนกรเชิญให้เข้ามายืน นั่ง หรือนอนลงบนพื้นหญ้า กระบวนกรแจกสุนทรพจน์ซีแอตเติ้ล ให้ผลัดกันอ่านคนละประโยคและพิจารณาถ้อยคําที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันงดงามระหว่างคนกับธรรมชาติ ระหว่างที่รับฟังขอให้ทุกคนฟังอย่างลึกซึ้งและไตร่ตรองถึงสายสัมพันธ์ของเรากับธรรมชาติ
สื่อการสอน :

สุนทรพจน์ซีแอตเติ้ล