Otto Scharmer นักวิชาการลือชื่อแห่ง MIT ผู้คิดค้น Theory U ได้เขียนไว้ในหนังสือ Leading from the Emerging Future ของเขา แสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยก 3 ประการ ในภาพภูเขาน้ำแข็งอันเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การล่มสลายในระบบสังคมและห่างไกลจากเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้แก่ (1) การแบ่งแยกทางนิเวศวิทยา (2) การแบ่งแยกทางสังคม (3) และการแบ่งแยกฝ่ายวิญญาณ
เรากำลังใช้และบริโภคโลกอย่างขาดความยั่งยืน ปัจจุบันเราใช้ปริมาณทรัพยากรที่ยั่งยืนที่โลกสามารถจัดหาได้ถึง 1.5 เท่า และกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เนื่องจากจำนวนประชากรทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 7 พันล้านเป็น 9 พันล้านในอีก 30 ปี
เรากำลังใช้และบริโภคโลกอย่างขาดความยั่งยืน ปัจจุบันเราใช้ปริมาณทรัพยากรที่ยั่งยืนที่โลกสามารถจัดหาได้ถึง 1.5 เท่า และกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เนื่องจากจำนวนประชากรทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 7 พันล้านเป็น 9 พันล้านในอีก 30 ปี
จากความเชื่อที่ผิดในการมองว่าตนเองแยกจากผู้อื่น กรอบความคิด “เรากับพวกเขา” ทำให้เกิดชุดความคิดแบบ “ตนเองต้องมาก่อน” ซึมซาบในสถานที่ทำงาน กีฬา โรงเรียน และทุกองค์กร สถาบัน จนกว่าเราจะตระหนักความเป็นจริงพื้นฐานของความเชื่อมโยงในธรรมชาติของเรา จนเริ่มตระหนักว่า “ผู้อื่น” นั้นแท้จริงแล้วคือตัวเราเอง
เราสูญเสียการเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่เราเป็นจริงๆ เราขาดความเข้าใจในตนเองและผู้อื่น อันเป็นเหตุให้ปัญหาทางจิตใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก กระนั้น ในแง่ดี เริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ว่ามีผู้ตื่นตัวและหันมาสนใจการยกระดับจิตสำนึกมากขึ้น
ปัญหาสำคัญอันเป็นอุปสรรคของการพัฒนาอย่างยั่งยืน คือการแบ่งแยกทั้ง 3 นี้ ทั้งทางนิเวศวิทยา สังคม และจิตวิญญาณของเรา ทั้งหมดมีพื้นฐานมาจาก “วิกฤตในจิตสำนึกของมนุษย์”
เราจำเป็นต้องยกระดับการรับรู้ของเราเกี่ยวกับธรรมชาติที่แท้จริงของความเป็นจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นองค์รวมโดยเนื้อแท้ แทนที่จะเป็นวิสัยทัศน์ที่แบ่งแยกจากกันซึ่งมุ่งเน้นที่อัตตา ส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง การแข่งขันที่มากเกินไป ปัญหาทางการเมือง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และการขาดความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของประชากรจำนวนมหาศาลของเรา
คำถาม คือ ถึงเวลาที่มนุษย์จะต้องเริ่มพัฒนาจากภายในแล้วหรือยัง ?
แปลเรียบเรียงจาก
THE NEXT GENERATION ECONOMY: FROM EGO-SYSTEM TO ECO-SYSTEMh