อายตนะทั้งหก คือประตูของเราที่ใช้รับรู้และเชื่อมต่อกับโลกภายนอก ประกอบด้วย ตา หู จมูก ช่องปาก ผิวกาย และจิตใจ การฝึกการตระหนักรู้ทางอายตนะทั้งหกเป็นการฝึกให้ตนเองอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับสิ่งรอบตัว และรับรู้สิ่งที่อยู่ตรงหน้า นํามาสู่ศักยภาพในการเชื่อมโยงกับตัวเองได้มากขึ้น
คุณภาพการฟังของคนคนหนึ่ง บ่งบอกถึงระดับของจิตสํานึกของคนคนนั้น เพราะการฟังมีผลต่อการตระหนักรู้ว่าจะลงลึกไปได้แค่ไหน อีกนัยหนึ่ง ระดับของการตระหนักรู้นั้นเป็นผลมาจากท่าทีของการให้ความใส่ใจ การสนทนากับผู้อื่น และการจัดการจัดระบบระเบียบในวงกว้างของเรา อาจกล่าวได้ว่า ที่เราเห็นและเข้าใจโลกรอบตัวเราอย่างไร ก็ขึ้นกับระดับของการใส่ใจหรือคุณภาพการฟังของตัวเรานั่นเอง
ตามแนวคิดของสุนทรียสนทนา (Dialogue) ของเดวิด โบห์ม และ ทฤษฎีตัวยู (Theory U) ของออตโต ชาร์เมอร์ การฟังของคนเราเป็นไปได้ 4 ระดับ ซึ่งก็คือความลึกซึ้งของการตระหนักรู้ของคนคนนั้น 4 ระดับการ ฟังนั้น ได้แก่
(1) การฟังแบบดาวน์โหลด เน้นรับรู้ตามประสบการณ์และความคุ้นเคยเพิ่ม
(2) การฟังแบบข้อเท็จจริง เน้นรับรู้ตามข้อมูลข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์
(3) การฟังแบบเข้าอกเข้าใจ เน้นรับรู้ตามมุมมองความรู้สึกของกันและกัน และ
(4) การฟังแบบสรรค์สร้าง เน้นรับรู้แบบดํารงอยู่ร่วมกันในปัจจุบันขณะ
จะเห็นได้ว่า ระดับการตระหนักรู้หรือวิธีการให้ความใส่ใจของตัวเราจะเป็นตัวบอกว่า ความเป็นจริงของโลกรอบตัวที่เราเห็นเป็นอย่างไร หากระดับการตระหนักรู้ของเรามีจํากัด การเข้าถึงความเป็นจริงของโลกของเราก็จะคับแคบ แต่หากระดับการตระหนักรู้ของเราแผ่กว้างและลึกซึ้งขึ้น การเข้าถึงความเป็นจริงของเราก็จะกว้างขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ ศักยภาพดังกล่าวสามารถฝึกฝนและพัฒนาได้ผ่านการเปิดความคิด เปิดใจ และเปิดตัวตน/ เจตจํานงของเราเอง
การปลีกวิเวก เป็นธรรมเนียมปฏิบัติอันเก่าแก่แบบหนึ่งที่อยู่คู่กับหลายวัฒนธรรมของมนุษย์มาช้านาน ด้วยเป็นการช่วยให้มนุษย์ได้เรียนรู้ว่าตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งช่วยให้เกิดการออกเดินทางทางจิตวิญญาณ หัวใจสําคัญอยู่ที่การถอยออกจากความคุ้น ชินในวิถีชีวิตแบบที่เคยเป็นมา เปิดโอกาสให้ได้มีเวลาแห่งความเงียบสงบ ให้เกิดการใคร่ครวญ การสัมผัสกับความไพศาลแห่งโลกธรรมชาติ การ ปล่อยวางอัตตาตัวตนแบบเดิม สู่การเปิดรับความเป็นไปได้ใหม่ที่จะก้าว เข้ามาสู่ชีวิตของเรา
การชื่นชมขอบคุณ หรือการรู้สํานึกในคุณงามความดีของสิ่งใด คือคุณภาพใจที่สําคัญประการแรกที่จะนําทางไปสู่การเรียนรู้และเติบโตบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ อีกนัยหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณจะเกิดขึ้นไม่ได้หากคนคนนั้นปราศจากซึ่งความรู้สึกชื่นชมขอบคุณ นอกจากนี้ เมื่อเราสามารถขอบคุณใครหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ เราจะเห็นความสัมพันธ์ เชื่อมโยงระหว่างตัวเรากับคนคนนั้น หรือสิ่งนั้นๆ อย่างเป็นเหตุเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน
ขอบคุณที่มา
หนังสือ สู่ศักยภาพแห่งความเป็นมนุษย์ คู่มือการจัดกระบวนการพัฒนาจิตวิญญาณ
รศ.ดร.รัตติกรณ์ จงวิศาล ผศ.ดร.สมสิทธิ์ อัสดรนิธี ดร.ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ บาทหลวงวิชัย โภคทวี