เคยสังเกตไหมว่าเวลาเราอยู่ใกล้คนที่รู้สึกซาบซึ้งขอบคุณและเห็นคุณค่าสิ่งเราทำให้ เราจะอยากทำอะไรให้มากขึ้นอีก เช่นเดียวกับเรื่องของพลังจักรวาล เมื่อใดที่เรามีโอกาสได้หยุดพักหลังจากที่ต้องฝ่าฟันปัญหานับไม่ถ้วนมายาวนาน แล้วเรารู้สึกซาบซึ้งขอบคุณที่พลังจักรวาลส่งสิ่งดีงามมาสู่เรา ผ่านพลังใจพลังกาย ผ่านการช่วยเหลือต่างๆ ผ่านผู้คนมากมาย เมื่อนั้นพลังจักรวาลจะส่งสิ่งดีงามมาให้เรามากขึ้น
ร่างกายของเราก็เช่นเดียวกัน เมื่อเรารู้สึกซาบซึ้งขอบคุณที่ทุกวันนี้ ร่างกายยังทำหน้าที่ได้อย่างแสนวิเศษ ทั้งที่เราอาจไม่ได้ดูแลร่างกายดีมากนัก แต่เราตั้งใจว่าต่อจากนี้จะดูแลร่างกายให้ดีขึ้น ให้สมกับที่ร่างกายพยายามช่วยเหลือเกื้อกูลเรามาตลอด เมื่อนั้นเรากำลังส่งสาส์นไปสู่เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย แล้วเกิดการยกระดับพลังงานขึ้นในระดับเซลล์ เราจึงรู้สึกสดชื่นมีพลังขึ้นมาทันที และถ้าเราทำเช่นนี้เป็นประจำ เราจะพบว่าร่างกายเราจะทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
พลังจักรวาลส่งสิ่งดีงามมาให้เราเสมอ ด้วยวิธีและรูปแบบที่หลากหลาย และด้วยเวลาที่เหมาะสม เราเพียงแค่ต้องเปิดรับด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาในปาฏิหาริย์จากพลังจักรวาล ซึ่งมักจะส่งสิ่งที่เกินความคาดหมายมาให้เราเสมอ แล้วเมื่อเราพิจารณาว่าสิ่งที่เราต้องการจริงๆ คืออะไร เราจะเริ่มไม่ยึดติดกับเปลือกนอกของมัน สุดท้ายเราจึงเห็นแก่นแท้ของมันว่า คือสิ่งที่เราต้องการมาตลอดนั่นเอง
เราอาจต้องการมิตรภาพที่มีความรักความไว้วางใจต่อกัน แต่ดูเหมือนพลังจักรวาลกลับส่งแต่คนที่ขาดรักและหวาดระแวงเข้ามาไม่ขาดสาย จนบางครั้งเราเริ่มท้อใจ แต่เมื่อเรายังมีศรัทธา พลังจักรวาลจึงส่งคำบอกใบ้มาให้เพื่อเป็นกำลังใจ แล้วจู่ๆ วันหนึ่งก็มีครูผู้เปี่ยมเมตตากล่าวถ้อยคำนี้ให้เราฟัง “เมื่อเราพร้อมที่จะรัก คนที่รักเราจะปรากฏ” ถ้อยคำนี้จึงกลายเป็นปริศนาธรรมที่เราต้องหาคำตอบ ด้วยการพิจารณาประสบการณ์ของเราเองอย่างลึกซึ้งตลอดชีวิต
คำตอบของปริศนาธรรมนี้อาจผุดขึ้นมามากมายหลายแบบ แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง ก็อาจมีคำตอบหนึ่งผุดขึ้นมา “คนที่ขาดรักและหวาดระแวงนั่นเอง ที่เป็นเหมือนครูคนสำคัญ ที่เข้ามาช่วยสะท้อนให้เราเห็นตัวตนอีกด้านของเรา ที่ขาดรักและหวาดระแวง และฝึกให้เราพร้อมที่จะรัก แล้วเมื่อเราพร้อมที่จะรัก คนที่รักเราก็ปรากฏ และไม่ได้ปรากฏเพียงคนเดียว เหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวที่ใครหลายคนฝันถึง แต่คือทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเรา ซึ่งมีเพียงเราเท่านั้นที่จะรู้ว่าเขารักเราหรือไม่”
Photo by Greg Rakozy on Unsplash