อรุณรุ่งแห่งการตื่น
ธรากร กมลเปรมปิยะกุล

การตื่นรู้ เป็นธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งของมนุษย์ ที่เกิดจากการเข้าถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน ความจริง ตามธรรมชาติอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่มีที่สิ้นสุด หลุดเป็นอิสระจากการติดอยู่ในความบีบคั้นความคับแคบ เกิดขึ้นจากจิตไปเชื่อมโยงกับธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่ง ซึ่งเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน

ศจ.นพ. ประเวศ วะสี

การดำเนินชีวิตในคุณธรรมอันสมบูรณ์ คือ การรู้แจ้งถึงสภาพของตนในอนันตภาพ
นี้เป็นแง่ของชีวิตอันแจ่มแจ้งที่สุดที่มนุษย์พึงมี โดยอาศัยธรรมจักษุ เห็นความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของชีวิต
รพินทรนาถ ฐากูร

ทันทีที่ปุถุชนเห็นธรรมชาติของเขา อุปาทานความยึดติดทั้งหลายก็จบสิ้นลง
ความตื่นรู้มิได้ถูกซ่อนเร้นอีกต่อไป แต่เธอสามารถจะพบมันได้ในขณะนี้เท่านั้น
ท่านโพธิธรรม

เพราะโลกคล้ายดั่งโรงละครสุดวิจิตรที่จัดแสดงโชว์ความเป็นจริงของชีวิตมานับพันล้านปี เป็นเวทีที่สรรพชีวิตต่างดิ้นรนเพื่อหนีความทุกข์ตามหาความสุข ทุก(ข์)ชีวิตล้วนมีสิทธิที่จะเสพสุขและประสบทุกข์ ดูเหมือนว่าบทละครส่วนใหญ่มักปรากฏเป็นโศกนาฏกรรมมากกว่าสุขนาฏกรรม จึงไม่แปลกว่าทั้งผู้ชมและผู้เล่นอันได้แก่มนุษย์โดยมากต่างใช้ชีวิตในความหวาดหวั่นและหวาดกลัว

เมื่อใดความกลัวกลายเป็นแรงขับเบื้องหลังของชีวิต สิ่งเกิดขึ้น คือ ชีวิตแห่งการแบ่งแยก แข่งขัน คิดถึงแต่ตนเอง คับแคบ ตัดขาดจากผู้อื่นและสิ่งอื่นๆ หรือสรุปโดยย่อ ทั้งหมดคือ “เห็นแก่ตัว” อันเนื่องมาจาก “ความกลัว” นั่นเอง

เราต่างแสวงหาทางออกจากความทุกข์และความกลัวด้วยวิถีทางต่างๆ เช่น การพูดบอกตนเอง ปลุกความกล้า ใช้ความคิด(สังขาร)สร้างเหตุผล แรงจูงใจ และบอกเล่าเรื่องราวใหม่เพื่อปลุกปลอบใจตน เพื่อสร้างความกล้า ลดพลังของความกลัว แต่กระนั้น ความกลัวก็ยังคงกลับมาได้เสมอ ตราบใดที่ “ความไม่รู้” ที่แท้จริงยังคงอยู่

ความไม่รู้ ใน ความจริง

หนทางเดียวที่จะกำจัดความไม่รู้ออกไปได้ คือ การตระหนักรู้ “เพราะเห็นความจริงอย่างที่เป็น” แต่กระนั้น หากเป็นเพียงการรู้เพราะอ่านมา ฟังมา จำได้ นึกออก ก็อาจยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ตัวตนแห่งความไม่รู้ภายในเรายอมศิโรราบต่อสัจจะ เพราะทั้งหมดที่รู้ อาจเป็นความจริงของผู้อื่น หาใช่ความจริงที่ได้พบเจอในชีวิตของเราเอง

ด้วยความปรารถนาที่ต้องการฉายภาพความจริงให้มากกว่าเป็นแค่ข้อสรุป ความคิดเห็น หรือประสบการณ์ของใครคนใดคนหนึ่ง เราจึงอยากเชื้อเชิญคุณผู้อ่านได้ร่วมเดินทางไปกับเรื่องราวบนเส้นทางสู่การตื่นของ 40 คน ซึ่งมีทั้งหญิงชาย หนุ่มสาวจนถึงสูงวัย แตกต่างทั้งภูมิหลังและอาชีพ

ทีมงานขอขอบคุณในไมตรีจิตรของกัลยาณมิตรหญิงชายทั้ง 40 ท่าน ที่ได้ให้เกียรติเปิดใจถ่ายทอดประสบการณ์สำคัญในชีวิตจนกลายเป็นต้นฉบับในหนังสือเล่มนี้ ได้กรุณาแบ่งปันเรื่องราวเหตุการณ์ในชีวิตทั้งทุกข์และสุข เปิดเผยเส้นทางแห่งการเติบโตและเปลี่ยนแปลงท่ามกลางวิกฤต จนถึงจุดพลิกผันเปลี่ยนแปลง หลุดจากกรงขังของความคิด ความเชื่อ เกิดจิตสำนึกใหม่ เกิดมุมมองใหม่ กระทั่งเป็นอิสระจากตัวตนที่เคยหลงยึดมั่น รวมเป็นนิยามแห่งการเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่เรียกว่า การตื่นรู้*

ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยบังเอิญ การที่คุณได้หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านก็เช่นกัน เป็นไปได้ว่าอีกไม่กี่หน้านับจากนี้ คุณจะได้พบกับบทเรียนจากประสบการณ์ชีวิตอันนำมาซึ่งการเติบโตทางจิตวิญญาณ และอาจมีบางเรื่องราว หรือบางถ้อยคำที่สื่อสารและทำงานมิติภายในของคุณเป็นพิเศษ คล้ายดั่งนาฬิกาปลุกที่ถูกส่งผ่านมาทางตัวอ้กษรตรงมาสู่ใจของคุณก็เป็นได้

เพราะเราเชื่อว่า ความจริงอันเป็นสัจจะสากลย่อมเป็นความจริงของมนุษย์ทุกคน

และเป็นสิทธิแต่กำเนิดของทุกคน ที่จะสามารถตื่นขึ้นและค้นพบความจริงนี้ เช่นกัน ด้วยรักและไมตรี

leaf

Photo by Aaron Burden on Unsplash

Facebook
Email
Twitter
Telegram
Pinterest
Print